รีวิว Microsoft 365 ชุดผลิตภัณฑ์เพื่อผลิตภาพที่หลากหลายที่สุด

ผสมผสานแอปออนไลน์และเดสก์ท็อปได้อย่างลงตัว สำหรับธุรกิจทุกขนาด
 
Office ไม่ได้ตายลง แต่ได้หลอมรวมเข้ากับ Microsoft 365 นั่นคือชุดของบริการด้านการทำงานร่วมกัน (Collaboration) ผลิตภาพ (Productivity) และคลาวด์ ที่แทนที่ Office เกือบทั้งหมด
 
มันสมเหตุสมผลมากสำหรับไมโครซอฟท์ที่จะขายผลิตภัณฑ์ในลักษณะนี้ เพราะสามารถรวมการตลาดและการสื่อสารเข้าด้วยกัน และก่อให้เกิดรายได้สม่ำเสมอจากผลิตภัณฑ์ที่เคยซื้อเป็นระยะๆ และยังสมเหตุสมผลกับผู้ใช้งานด้วย ซึ่งธุรกิจสามารถรับชุดซอฟต์แวร์ทั้งหมดทั้งในรูปออนไลน์หรือออฟไลน์จากผู้ให้บริการรายเดียว พร้อมทั้งมีราคาที่คาดการณ์ได้ง่ายขึ้นและมีตัวเลือกในการขยายขนาดเมื่อธุรกิจเติบโต
 
ในปีที่ 6 นี้ Microsoft 365 มีความหลากหลายมากขึ้นตามที่เติบโตขึ้น ระดับต่างๆ ของผลิตภัณฑ์นี้ก็มีความละเอียดมากกว่าตั้งแต่เริ่มต้น โดยมีข้อเสนอสำหรับองค์กรขนาดเล็กและกลาง องค์กรขนาดใหญ่ องค์กรไม่แสวงหากำไร พนักงานประจำหน้างาน และการใช้งานภายในบ้าน แท้จริงแล้ว มันได้รับการแบ่งส่วนอย่างละเอียดจนราคาอาจรู้สึกซับซ้อนอยู่บ้าง ดังนั้นในบทความนี้ เราเลยจะพาไปสำรวจลงรายละเอียดกันก่อนจะเข้าสู่ส่วนนั้น มาดูชุดผลิตภัณฑ์และสำรวจคุณสมบัติหลักๆ ก่อนเลย
 

รีวิว Microsoft 365: แอปพลิเคชัน
แอปพลิเคชันออฟไลน์เป็นอะไรที่อบอุ่นและคุ้นเคย โดยใช้ในการดำเนินธุรกิจมาตลอด 40 ปีที่ผ่านมา แต่เวลาก็เปลี่ยนไป ด้วยการแข่งขันสุดดุเดือดจาก Google Workspace, Zoho Office และอื่นๆ Microsoft จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องย้ายแอปพลิเคชันเหล่านี้เข้าสู่เว็บ ผลลัพธ์ที่ได้ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนจากแอปพลิเคชันบนเดสก์ท็อปหรือใช้งานควบคู่กันไป คุณจะรู้สึกคุ้นเคยกับเวอร์ชันบนเบราว์เซอร์ทันที ด้วยอินเทอร์เฟซ สี และฟอนต์ที่คุ้นตา แม้ว่าจะไม่ได้เหมือนกันทุกประการ และเมนูริบบอนบางส่วนถูกย่อลง แต่คงไม่ยุติธรรมที่จะบอกว่ามันถูกลดทอนลง คุณสามารถทำงานทั้งวันด้วยแอปพลิเคชันเหล่านี้ได้ และหากคุณไม่เคยใช้เวอร์ชันเดสก์ท็อปมาก่อน ก็อาจไม่รู้เลยว่าขาดอะไรไป ในบางกรณี หากมีฟังก์ชันที่ขาดหายไป ก็สามารถเติมเต็มช่องว่างนั้นด้วยตัวเลือกจากไลบรารี add-ins ได้
 
คุณสามารถเริ่มต้นด้วยการสร้างเอกสารเปล่าหรือเลือกจากเทมเพลตที่หลากหลาย และจะลืมไปอย่างรวดเร็วเลยว่ากำลังทำงานออนไลน์อยู่ เนื่องจากอินเทอร์เฟซมีการตอบสนองที่ดีและมีคุณสมบัติครบครัน แม้แต่บนการเชื่อมต่อบรอดแบนด์สำหรับผู้บริโภคทั่วไป เมื่อเริ่มพิมพ์สูตรใน Excel จะมีตัวช่วยเหลือแบบเดียวกับที่คุณคาดหวังจากเวอร์ชันเดสก์ท็อปปรากฏขึ้น เมนูบริบททำงานได้อย่างไร้ที่ติ และปุ่มลัดทั่วไปถูกดักจับเพื่อใช้กับแอปเว็บแทนที่จะเป็นเบราว์เซอร์ ตัวควบคุมการจัดรูปแบบทำงานได้ตามที่คาดหวังและมีฟอนต์ให้เลือกมากมาย รวมถึงชุดตัวอักษรที่ผู้ใช้ฟรีสามารถเข้าถึงได้ และฟอนต์พรีเมียมที่สงวนไว้สำหรับสมาชิก
ข้อร้องเรียนเดียวที่แท้จริงของเราคือชุดออนไลน์นี้อนุญาตให้อัปโหลดไฟล์ดั้งเดิมของ Word, PowerPoint, Excel, Visio และ Stream รวมถึง PDF เท่านั้น คุณไม่สามารถอัปโหลดไฟล์ .odt หรือ .ods ที่สร้างโดย LibreOffice ได้เหมือนกับที่ทำได้ใน Google Workspace แม้ว่าคุณจะสามารถดาวน์โหลดในรูปแบบเหล่านั้นได้
 
นอกเหนือจากเวอร์ชันเว็บของ Word, Excel, PowerPoint และ Outlook แล้ว Microsoft 365 ยังประกอบด้วยบริการเว็บที่เป็นที่รู้จักหลายอย่าง รวมถึง To Do, Clipchamp และพื้นที่จัดเก็บ OneDrive ที่เพิ่มขึ้น
 
แพ็กเกจสำหรับครอบครัวและส่วนบุคคลยังรวมการโทรผ่าน Skype 60 นาทีต่อเดือน และแผนส่วนใหญ่ ยกเว้นแผนสำหรับองค์กรและ Microsoft 365 Apps for business ยังรวม Microsoft Teams เป็นมาตรฐาน คุณสามารถเลือกที่จะไม่ใช้ Teams เพื่อรับส่วนลดเล็กน้อยในแผน Business Basic, Standard และ Premium ได้ ซึ่งเราจะอธิบายต่อด้านล่าง
 
การผสมผสานระหว่างซอฟต์แวร์คลาวด์และเดสก์ท็อปยังคงเป็นจุดขายหลักของ Microsoft 365 แต่เราก็ถามตัวเองว่าสถานการณ์นี้จะคงอยู่ได้อีกนานแค่ไหน มีน้อยสิ่งที่คุณไม่สามารถทำได้ในบริบทสำนักงานทั่วไปด้วยทางเลือกออนไลน์อย่าง Google Workspace และถึงแม้ว่าแอปพลิเคชันส่วนประกอบของชุดนั้นจะพึ่งพาเบราว์เซอร์และการเชื่อมต่อเว็บในท้ายที่สุด แต่โหมดออฟไลน์ที่มีประสิทธิภาพก็ช่วยให้คุณทำงานต่อได้เมื่อการเชื่อมต่อขาดหาย ความจริงที่ว่าข้อมูลของคุณถูกเก็บไว้ในคลาวด์เมื่อใช้ชุดออนไลน์ ก็เป็นประเด็นที่สำคัญน้อยลงเรื่อยๆ และคุณสามารถดาวน์โหลดสำเนาในเครื่องได้เสมอ
 
จริงอยู่ที่ซอฟต์แวร์เดสก์ท็อปไม่ขึ้นอยู่กับความไม่แน่นอนของการเชื่อมต่อบรอดแบนด์ จึงอาจทำงานได้เร็วกว่า มักจะปรับแต่งได้มากกว่า และรวมเข้ากับแอปพลิเคชันอื่นๆ ที่ติดตั้งในเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นข้อได้เปรียบของ Microsoft 365 เมื่อเทียบกับชุดที่ใช้งานบนเว็บล้วนๆ อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ถูกหักล้างด้วยข้อเท็จจริงที่ว่าแอปออนไลน์ได้รับการดูแลรักษาจากระยะไกล ซึ่งช่วยให้ธุรกิจไม่ต้องรับผิดชอบในการแก้ไข อัปเดต และวินิจฉัยปัญหาในเครื่อง
 
ในท้ายที่สุด ด้วยทั้งบริการออนไลน์และเดสก์ท็อป การรับประกันเวลาทำงาน 99.9% ที่มีการรับประกันทางการเงินสำหรับบริการออนไลน์ทั้งหมด และตัวเลือกในการผสมผสานแผนต่างๆ ตามความต้องการของผู้ใช้แต่ละคน ทำให้ Microsoft 365 เป็นชุดผลิตภาพที่มีความยืดหยุ่นมากที่สุด
 

Microsoft 365: แผนและราคา
Microsoft ได้แบ่งข้อเสนอของตนเป็นแบบย่อยเพื่อให้เหมาะกับผู้ใช้หลายกลุ่ม ดังนั้น แทนที่จะอธิบายรายละเอียดของแต่ละแพ็กเกจ (คุณสามารถดูรายละเอียดเหล่านั้นได้ที่นี่) เราจะมาดูว่าผู้ใช้แต่ละกลุ่มจะมีค่าใช้จ่ายอย่างไรบ้าง
 

Microsoft 365 สำหรับในครัวเรือน
นี่เป็นระดับที่ง่ายที่สุด โดยแบ่งออกเป็นเพียงสองแบบ คือสำหรับส่วนบุคคล (59.99 ปอนด์ต่อปี) หรือสำหรับครอบครัว (79.99 ปอนด์ต่อปี) แต่ละแบบให้คุณเข้าถึงเวอร์ชันที่ติดตั้งได้ของ Word, Excel, PowerPoint, Outlook, Editor (ภายใน Word), Clipchamp, OneNote และ Teams บนคอมพิวเตอร์ PC หรือ Mac รวมถึงการเข้าถึงแอปบนเว็บผ่านเบราว์เซอร์ สิ่งที่แตกต่างกันคือจำนวนผู้ใช้และเครื่องที่แต่ละใบอนุญาตครอบคลุม หากเลือกแบบส่วนบุคคล ผู้ใช้หนึ่งคนสามารถทำงานกับแต่ละแอปบนอุปกรณ์ได้สูงสุด 5 เครื่องในเวลาเดียวกัน พวกเขายังได้รับพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์ OneDrive 1TB หากจ่ายเพิ่มอีก 20 ปอนด์สำหรับแบบครอบครัว ผู้ใช้ 6 คนสามารถใช้ชุดโปรแกรมบนเครื่องได้สูงสุดคนละ 5 เครื่องเช่นกัน (รวมเป็น 30 อุปกรณ์) แต่ละคนยังได้รับพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์ 1TB เช่นเดียวกัน ซึ่งคิดเป็นเพียงกว่า 13 ปอนด์ต่อผู้ใช้ต่อปี เราคิดว่านี่เป็นความคุ้มค่าที่ยอดเยี่ยม
 

Microsoft 365 สำหรับธุรกิจ
แผนนี้จะให้สิ่งต่างๆ ที่เริ่มซับซ้อนขึ้น - และแพงขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่แผนสำหรับในครัวเรือนมีราคาที่รวม VAT แล้ว แผนสำหรับธุรกิจไม่รวม VAT ดังนั้น ในส่วนที่จะกล่าวต่อไปนี้ คุณจะต้องบวก VAT ในอัตราที่ใช้อยู่
 
หากคุณต้องการเพียง Word, Excel, PowerPoint และ Outlook ในรูปแบบแอปมือถือและเว็บ พื้นที่จัดเก็บ 1TB ต่อพนักงาน อีเมลธุรกิจที่กำหนดเองโดยใช้โดเมนของคุณเอง และการสนับสนุนทางโทรศัพท์และเว็บตลอด 24 ชั่วโมง ให้เลือกแผน Business Basics ในราคา 4.90 ปอนด์ต่อผู้ใช้ต่อเดือน หากคุณไม่ต้องการ Teams คุณสามารถลดราคาลงได้อีก 1 ปอนด์ต่อที่นั่ง
 
หากคุณต้องการแอปเดสก์ท็อปที่ติดตั้งได้ ตัวเลือกที่ถูกที่สุดคือ Microsoft 365 Apps for business ในราคา 8.60 ปอนด์ต่อผู้ใช้ต่อเดือน นี่จะทำให้คุณได้ Word, Excel, PowerPoint และ Outlook รวมทั้งพื้นที่จัดเก็บ OneDrive 1TB ต่อผู้ใช้ อย่างไรก็ตาม คุณจะสูญเสียคุณสมบัติการทำงานร่วมกันและการทำงานเป็นทีมบางอย่างของ Microsoft 365 รวมถึงความสามารถในการแบ่งปันข้อมูลบน SharePoint และการเชิญผู้ร่วมงานภายนอกเข้าร่วมการประชุมออนไลน์ผ่าน Teams
 
ข้อเสนอ Apps for business ในบางแง่มุมเป็นส่วนแยกย่อย เนื่องจาก Business Standard (10.30 ปอนด์ต่อผู้ใช้ต่อเดือน / 8.40 ปอนด์โดยไม่มี Teams) เป็นการอัปเกรดที่สมเหตุสมผลจาก Business Basic แผนนี้รวมทุกอย่างในแผน Basic รวมทั้งเวอร์ชันเดสก์ท็อปของ Word, Excel, PowerPoint, Outlook, Clipchamp และ Loop ระดับนี้ยังอนุญาตให้คุณเป็นเจ้าภาพจัดสัมมนาผ่านเว็บพร้อมการลงทะเบียนและการรายงานผู้เข้าร่วม และทำงานร่วมกันในพื้นที่ทำงาน หากคุณยังไม่รู้จัก Loop มันคือเครื่องมือสร้างร่วมกันที่ให้ทีมมีพื้นที่ทำงานร่วมกันสำหรับการระดมความคิดและการซิงโครไนซ์เนื้อหา
 
หากคุณต้องการการจัดการอุปกรณ์ที่ละเอียดยิ่งขึ้นและการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ คุณจำเป็นต้องอัปเกรดเป็น Business Premium ซึ่งมีค่าใช้จ่าย 18.10 ปอนด์ต่อผู้ใช้ต่อเดือน (16.20 ปอนด์โดยไม่มี Teams) และรวม Intune, Microsoft Defender for Business, Azure Information Protection และ Entra ID โดย Entra ID ช่วยป้องกันอุปกรณ์จากแรนซัมแวร์และมัลแวร์ Intune คือบริการจัดการจุดสิ้นสุดของ Microsoft ซึ่งองค์กรสามารถบริหารจัดการอุปกรณ์ผ่านเบราว์เซอร์ โดยรองรับ Windows, macOS, iOS และ Android
 
เช่นเดียวกับแผน Personal สำหรับในครัวเรือน แต่ละแผนธุรกิจอนุญาตให้คุณติดตั้งแอปบนอุปกรณ์ได้สูงสุด 5 เครื่องต่อผู้ใช้ แผนเหล่านี้มีไว้สำหรับใช้ในองค์กรที่มีที่นั่งไม่เกิน 300 ที่ หากเกินกว่านั้น คุณจำเป็นต้องอัปเกรดเป็นแผนองค์กรขนาดใหญ่
 

Microsoft 365 สำหรับองค์กรขนาดใหญ่
แผนที่มีความยืดหยุ่นและมีคุณสมบัติมากที่สุดคือแผนเฉพาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ (Enterprise) ซึ่งรวมแอปพลิเคชันที่หลากหลายทั้งเดสก์ท็อป มือถือ และเว็บ พร้อมด้วย Windows พื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์ และการป้องกันข้อมูล Microsoft 365 E3 (31 ปอนด์ต่อผู้ใช้ต่อเดือน) และ Microsoft 365 E5 (50.30 ปอนด์) มีคุณสมบัติร่วมกันหลายอย่าง รวมถึงการทำงานร่วมกันบน SharePoint การเข้าถึง Microsoft Graph API และการสร้างแอปธุรกิจด้วย Power Apps ตามชื่อและราคาที่บ่งบอก E5 มีคุณสมบัติที่ก้าวหน้ากว่า โดยมีความสามารถในการตรวจสอบการดำเนินการกับรายการที่ละเอียดอ่อนและป้องกันการแชร์โดยไม่ตั้งใจ ตรวจจับและดำเนินการกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และจำกัดการทำงานร่วมกันระหว่างกลุ่มภายในเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งทางผลประโยชน์
 
ในขณะที่แผนธุรกิจมีให้เลือกแบบรายเดือนหรือรายปี แผนสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ต้องการข้อผูกมัดรายปี ดังนั้น แม้ว่าราคาจะระบุเป็นรายเดือน คุณกำลังมองหาค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 372 ปอนด์และ 603.60 ปอนด์ต่อที่นั่ง (บวก VAT) สำหรับ E3 และ E5 ตามลำดับ ทั้งสองแผนไม่รวม Teams ซึ่งมีให้เลือกเป็นส่วนเสริม
 

รีวิว Microsoft 365: เกิดอะไรขึ้นกับ Office?
อินเทอร์เฟซของ Word บนเว็บมีคุณสมบัติค่อนข้างครบถ้วนและดูคล้ายกับเวอร์ชันเดสก์ท็อปมาก ยกเว้นความแตกต่างเพียงไม่กี่อย่าง ส่วน Insert ไม่มีความสามารถในการสร้างกล่องข้อความ ไม่มีแท็บ Design คุณไม่สามารถสร้างคอลัมน์ใน Page Layout และไม่สามารถสร้างสารบัญใน References ส่วนหลังยังขาดเครื่องมือ Research และ Citation และไม่มีแท็บ Mailings อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากนี้ นี่เป็นประสบการณ์ที่คล้ายกับการใช้งานบนเดสก์ท็อปมาก
 

รีวิว Microsoft 365: การผสานรวม Copilot
ในขณะนี้ Copilot เป็นสุดยอดผลิตภัณฑ์ของ Microsoft ดังนั้นจึงอาจไม่น่าแปลกใจที่แม้ว่าจะสามารถผสานรวมกับแผน Business Standard, Business Premium และ Enterprise ได้ แต่ก็มีให้บริการเฉพาะในรูปแบบส่วนเสริมในราคา 24.70 ปอนด์ต่อผู้ใช้ต่อเดือน (บวก VAT)
 
หากคุณเคยใช้ Copilot ใน Windows คุณจะรู้ว่ามันเป็นผู้ช่วยที่ยืดหยุ่นและทรงพลัง ซึ่งความสามารถของมันถูกจำกัดเพียงแค่ความสามารถของคุณในการสร้างคำสั่งที่เหมาะสมเท่านั้น ตัวอย่างการใช้งานของ Microsoft สำหรับการผสานรวมกับ 365 ได้แก่ การร่างเนื้อหาใหม่ใน Word การสรุปการประชุมใน Teams การตรวจจับความขัดแย้งของการประชุมใน Outlook และการถามคำถามในภาษาธรรมชาติเกี่ยวกับข้อมูลในสมุดงาน Excel
 
เนื่องจาก Copilot มีให้บริการเฉพาะกับข้อผูกพันรายปี มันจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 300 ปอนด์ต่อที่นั่ง ไม่รวมภาษี การลงทุนนี้จะคุ้มค่าหรือไม่ขึ้นอยู่กับเวลาที่มันสามารถประหยัดได้หรือรายได้ที่มันสามารถช่วยสร้างโดยการปรับปรุงตารางงานของทีมและพัฒนาการนำเสนอของพวกเขา เงินเดือนเฉลี่ยก่อนหักภาษีในสหราชอาณาจักรอยู่ที่ประมาณ 35,000 ปอนด์ ตามข้อมูลของ ONS ที่เผยแพร่ในฤดูใบไม้ผลิปี 2024 ก่อนที่จะพิจารณาค่าใช้จ่ายเสริมอื่น ๆ เช่น ประกันสังคม เงินสมทบกองทุนบำเหน็จบำนาญ และค่าใช้จ่ายสำหรับวันลาพักผ่อนประจำปี ด้วยอัตรานั้นและราคาปัจจุบัน คุณสามารถนำ Copilot ไปใช้กับที่นั่งไม่น้อยถึง 120 ที่นั่งได้ หากมันสามารถช่วยชดเชยค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานเพิ่มได้
 

Microsoft 365 เป็นอย่างไร เมื่อเทียบกับ Google Workspace?
คุณสมบัติที่แยก Microsoft 365 ออกจากคู่แข่งได้ดีที่สุด คือเวอร์ชันเดสก์ท็อปของ 5 แอปหลัก - Word, Excel, PowerPoint, Outlook และ Access เราได้กล่าวถึงเรื่องนี้ข้างต้น พร้อมกับความเชื่อของเราว่าเมื่อเวลาผ่านไป ซอฟต์แวร์ออฟไลน์กำลังกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นน้อยลง เนื่องจากทั้งธุรกิจและผู้ใช้ที่บ้านเริ่มคุ้นเคยกับการทำงานออนไลน์มากขึ้น
 
Google Workspace ตอบโต้ Word, Excel และ PowerPoint ด้วย Docs, Sheets และ Slides ซึ่งแต่ละอย่างเป็นแอปออนไลน์ล้วนๆ Gmail และ Calendar ทำหน้าที่แทน Outlook, Meet เป็นทางเลือกแทน Teams และ Drive เติมเต็มช่องว่างที่ OneDrive ทิ้งไว้
 
แผนเริ่มต้นที่ 5 ปอนด์ต่อผู้ใช้ต่อเดือนโดยมีข้อผูกมัดขั้นต่ำหนึ่งปี และรวมอีเมลที่มีแบรนด์โดยใช้โดเมนที่กำหนดเอง การประชุมยาวนาน 24 ชั่วโมงสำหรับผู้เข้าร่วมสูงสุด 100 คน พื้นที่จัดเก็บ 30GB บน Drive และคุณสมบัติการทำงานร่วมกัน 30GB นั้น แม้จะมีนัยสำคัญ แต่ดูน้อยมากเมื่อเทียบกับข้อเสนอ 1TB ของ Microsoft การอัปเกรดเป็นระดับ Business Standard ของ Google ในราคาสองเท่าของราคาเปิดตัว เพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วม Meet เป็น 150 คน รวมการบันทึกการประชุม และเพิ่มพื้นที่จัดเก็บออนไลน์สำหรับผู้ใช้แต่ละคนเป็น 2TB การปรับปรุงอื่นๆ รวมถึงการตัดเสียงรบกวนในการประชุม หน้าจองการนัดหมายใน Calendar และการปรับแต่งแบรนด์สำหรับเอกสารและเทมเพลตแบบฟอร์มของคุณ Business Plus ราคา 15 ปอนด์ต่อที่นั่งต่อเดือน เพิ่มขีดจำกัดผู้เข้าร่วม Meet อีกครั้ง คราวนี้เป็น 500 ผู้ใช้ เพิ่มพื้นที่จัดเก็บเป็น 5TB ต่อที่นั่ง และเสริมสร้างคุณสมบัติด้านความปลอดภัยและการสนับสนุนที่มีอยู่
 
การกำหนดราคาของ Google ละเอียดน้อยกว่าของ Microsoft และแม้ว่าจะมีข้อเสนอสำหรับองค์กรเพิ่มเติมจากสามแผนที่กล่าวถึงข้างต้น ซึ่งสามารถขอราคาได้ แต่ก็ไม่มีการจำกัดที่นั่ง 300 ที่สำหรับแผนธุรกิจ
แต่ละระดับธุรกิจยังมีให้บริการแบบรายเดือน ตราบใดที่คุณเต็มใจจ่ายเพิ่มอีก 20% และคุณสามารถผสานรวม Gemini ซึ่งเป็นคำตอบของ Google สำหรับ Copilot ในราคา 16.80 ปอนด์หรือ 25.20 ปอนด์ต่อผู้ใช้ต่อเดือน สำหรับผู้ใช้ธุรกิจและองค์กรตามลำดับ
 
ทั้ง Google และ Microsoft สนับสนุนการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์และการโฮสต์อีเมล และทำให้การแชร์ไฟล์ง่ายขึ้น ดังนั้น ในแง่นี้จึงมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย OneDrive ซึ่งรวมอยู่ใน Windows ซิงค์ไฟล์จากคลาวด์ไปยังเครื่องในพื้นที่ของคุณ ซึ่งจะรวมอยู่ในชุดสำรองข้อมูลของคุณ (ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าเฉพาะ) ในขณะที่ Google Drive for desktop - การดาวน์โหลดเสริม - ให้ตัวเลือกในการ 'สตรีม' หรือ 'สะท้อน' สินทรัพย์ไปยังและจากคลาวด์ ทุกอย่างที่สตรีมจะถูกจัดเก็บจากระยะไกล เชื่อมโยงในพื้นที่ และสามารถเข้าถึงได้เมื่อคุณออนไลน์ ในขณะที่ไฟล์ที่ 'streaming' จะถูกดาวน์โหลดและเก็บไว้ในซิงค์ เช่นเดียวกับ OneDrive
ในส่วนของแอปเว็บ Word, Excel และ PowerPoint รู้สึกเหมือนแอปพลิเคชันที่ย้ายมาจากเดสก์ท็อป ในขณะที่แอปของ Google ที่เทียบเท่ากัน ซึ่งเป็นเว็บแอปมาตั้งแต่ต้น มีความรู้สึกเบากว่าเล็กน้อย - อย่างน้อยก็ในสายตาของเรา ไม่มีอันไหนดีกว่ากันในแง่นี้ มันเป็นเพียงกรณีของสิ่งที่คุณชอบ สิ่งที่คุณคุ้นเคย และคุณจะสามารถปรับตัวได้เร็วแค่ไหนหากคุณต้องเปลี่ยน
 
เว้นแต่คุณต้องการแอปพลิเคชันเดสก์ท็อป หรือคุณเป็นผู้ใช้องค์กรที่ต้องการรวมคุณสมบัติเช่น Power BI (ซึ่ง Google มี Looker Studio), Visio หรือ Windows เอง ทั้งสองก็มีความสามารถใกล้เคียงกัน โดยแต่ละอย่างมีให้มากกว่าที่ธุรกิจทั่วไปจะต้องการในแต่ละวัน

Microsoft 365: คุ้มค่าหรือไม่
ไม่ว่าคุณจะสมัครระดับใด คุณได้รับประโยชน์มากมายจากเงินที่จ่ายไป - โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในอดีตสำหรับเพียงส่วนหนึ่งของคุณสมบัติเหล่านี้ Office 2000 Premium มีราคา 799 ดอลลาร์ (ประมาณ 550 ปอนด์ในขณะนั้น) และแม้ดูเหมือนเป็นข้อเสนอที่คุ้มค่าเมื่อพิจารณาว่า Word, Excel, PowerPoint และ Access แต่ละตัวมีราคาขายปลีก 339 ดอลลาร์ แต่ก็ขาดคุณสมบัติการทำงานร่วมกัน แอปเว็บ และคุณสมบัติการจัดเก็บบนคลาวด์ของ Microsoft 365
 
ครั้งสุดท้ายที่เรารีวิวไป เราเรียก Microsoft 365 ว่า "มาตรฐานทองคำของชุดโปรแกรมสำนักงาน" และเราไม่มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนความคิดเลย ทีมงานเบื้องหลังไม่เพียงแต่พัฒนาต่อเนื่อง แต่ยังสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ทำให้ส่วนประกอบต่างๆ ซึ่งบางส่วนมีประวัติย้อนหลังไปถึงสี่ทศวรรษ ยังคงมีความเกี่ยวข้องในปัจจุบันเช่นเดียวกับทุกช่วงเวลานับตั้งแต่ปรากฏขึ้นครั้งแรก
 
ที่มา: https://bit.ly/4evlEqr 
สนใจสั่งซื้อ Microsoft 365 คลิกที่นี่ https://www.quickserv.co.th/cloud/office/MICROSOFT.html