ในยุคที่ภัยคุกคามไซเบอร์ซับซ้อนและพัฒนาอย่างรวดเร็ว การมีเพียง Antivirus แบบเดิม อาจไม่เพียงพอในการปกป้องข้อมูลและระบบของคุณ
QuickServ จะพาคุณไล่ดู “ขั้นบันไดโซลูชันความปลอดภัย” พร้อมคำแนะนำว่าลูกค้ากลุ่มไหนควรใช้แบบไหน เพื่อคุ้มค่าและลดความเสี่ยงสูงสุด
Traditional Antivirus (AV)
คืออะไร : โปรแกรมป้องกันไวรัสแบบดั้งเดิม ใช้ฐานข้อมูลลายเซ็น (Signature) เพื่อตรวจจับและลบมัลแวร์ที่รู้จักแล้ว
รู้หรือไม่?
Signature คือ “รหัสประจำตัว” ของไวรัส ที่นักวิเคราะห์มัลแวร์สร้างขึ้นจากโค้ดที่เป็นเอกลักษณ์ เมื่อ Antivirus สแกนไฟล์ มันจะนำไปเทียบกับฐานข้อมูลลายเซ็นนี้ ถ้าตรงกันก็จะระบุว่าเป็นไวรัสและบล็อกได้ทันที
จุดเด่นคือแม่นยำกับภัยที่รู้จักแล้ว แต่ไม่สามารถจับภัยใหม่ (Zero-day) ได้ และต้องอัปเดตฐานข้อมูลเสมอ
เหมาะกับ :
• ผู้ใช้ทั่วไป, องค์กรขนาดเล็กที่งบจำกัด
• ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป ไม่เก็บข้อมูลสำคัญมาก
ทำอะไรได้บ้าง :
• ตรวจจับและลบไวรัส/มัลแวร์ตาม Signature
• ป้องกันภัยที่รู้จักแล้วเท่านั้น
• ทำงานเฉพาะบนเครื่องที่ติดตั้ง (Standalone)
ความคุ้มค่า : ราคาถูกหรือฟรี เหมาะสำหรับการป้องกันขั้นพื้นฐาน
ความเสี่ยงถ้าไม่มี : เสี่ยงต่อไวรัสที่มีอยู่แล้วในตลาด และการแพร่กระจายไฟล์ติดเชื้อ
ตัวอย่างแบรนด์ : Avast Premium Security, AVG Antivirus Free, Avira Free Security, McAfee AntiVirus
Next-Generation Antivirus (NGAV)
คืออะไร : Antivirus ยุคใหม่ที่ใช้ AI/ML วิเคราะห์พฤติกรรม (Behavior-based) ป้องกันภัยได้แม้ไม่มี Signature
เหมาะกับ :
• SMB (ธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง)
• องค์กรที่มีข้อมูลลูกค้าหรือข้อมูลธุรกิจสำคัญ
• ผู้ที่เคยเผชิญภัย Ransomware หรือ Malware ซับซ้อน
ทำอะไรได้บ้าง :
• ใช้ AI/ML วิเคราะห์พฤติกรรมไฟล์และโปรแกรม
• ป้องกันภัยใหม่ ๆ เช่น Ransomware, Fileless Malware
• ตรวจจับ Zero-day threats
ความคุ้มค่า : ลงทุนเพิ่มเล็กน้อย แต่ลดโอกาสถูกโจมตีจากภัยสมัยใหม่
ความเสี่ยงถ้าไม่มี : อาจถูกโจมตีด้วยมัลแวร์ใหม่ที่ AV แบบเดิมจับไม่ได้
ตัวอย่างแบรนด์ : CrowdStrike Falcon Prevent, SentinelOne NGAV, Sophos Intercept X Essentials, Bitdefender GravityZone
Endpoint Detection and Response (EDR)
คืออะไร : พัฒนาเหนือกว่า NGAV ด้วยการเฝ้าระวัง วิเคราะห์ และตอบสนองต่อภัยบน Endpoint
เหมาะกับ :
• องค์กรกลาง-ใหญ่
• ธุรกิจที่ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย (เช่น ISO, PDPA, GDPR)
• บริษัทที่มีทีม IT Security ภายใน
ทำอะไรได้บ้าง:
• เก็บ Log และติดตามพฤติกรรมทุก Endpoint
• วิเคราะห์เหตุการณ์ย้อนหลัง (Forensics)
• กักกันเครื่องหรือปิดการเชื่อมต่อได้ทันที
ความคุ้มค่า : ให้ภาพรวมการโจมตีชัดเจนและลดการแพร่กระจายมัลแวร์
ความเสี่ยงถ้าไม่มี : ไม่สามารถสืบหาต้นตอและป้องกันซ้ำได้
ตัวอย่างแบรนด์ : CrowdStrike Falcon Insight, SentinelOne Vigilance, Sophos Intercept X Advanced with EDR, Microsoft Defender for Endpoint
Extended Detection and Response (XDR)
คืออะไร : ขยายจาก EDR ให้ครอบคลุม Network, Email, Cloud และแอปพลิเคชัน
เหมาะกับ :
• องค์กรที่มีโครงสร้างระบบ IT หลายมิติ (เครือข่าย, Cloud, Email)
• บริษัทที่ต้องการรวมศูนย์การมองเห็นและจัดการภัย
ทำอะไรได้บ้าง:
• รวมข้อมูลภัยจากหลายระบบในแดชบอร์ดเดียว
• วิเคราะห์ภัยข้ามระบบด้วย AI
• ลด Blind Spot ในการป้องกัน
ความคุ้มค่า : ลงทุนสูงขึ้น แต่ได้การป้องกันครบทุกมิติและลดช่องโหว่ที่ถูกมองข้าม
ความเสี่ยงถ้าไม่มี : อาจถูกโจมตีจากช่องทางที่ระบบป้องกันแบบเดี่ยว ๆ ไม่ครอบคลุม
ตัวอย่างแบรนด์ : Microsoft Defender XDR, Palo Alto Cortex XDR, Trend Micro Vision One, Sophos XDR
Managed Detection and Response (MDR)
คืออะไร : บริการจากผู้เชี่ยวชาญ SOC ภายนอก ใช้ EDR/XDR เฝ้าระวังและตอบสนองแทนองค์กร
เหมาะกับ:
• องค์กรทุกขนาดที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด
• บริษัทที่ไม่มีทีม Security ขนาดใหญ่
• หน่วยงานที่ต้องการตอบสนองเหตุการณ์ทันทีแม้นอกเวลางาน
ทำอะไรได้บ้าง :
• ทีมผู้เชี่ยวชาญเฝ้าระวัง 24/7
• วิเคราะห์และตอบสนองทันที
• จัดทำรายงานและข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันซ้ำ
ความคุ้มค่า : ได้ทั้งเทคโนโลยีและทีมงานโดยไม่ต้องสร้าง SOC เอง
ความเสี่ยงถ้าไม่มี: หากเกิดการโจมตีนอกเวลางาน อาจไม่มีใครตอบสนองทันที
ตัวอย่างแบรนด์ : Sophos MDR, CrowdStrike Falcon Complete, Arctic Wolf MDR, Kaspersky MDR
การสูญเสียเมื่อโดนไวรัส เทียบกับการลงทุนป้องกัน
รายการ | ความเสียหายเมื่อโดนไวรัส/มัลแวร์ | ค่าใช้จ่ายในการป้องกัน |
สูญเสียข้อมูล | ข้อมูลลูกค้า, การเงิน, เอกสารสำคัญถูกเข้ารหัส (Ransomware) หรือถูกลบ | ลงทุนใน NGAV/EDR เพื่อป้องกัน และสำรองข้อมูล |
หยุดชะงักการทำงาน | ระบบล่มหลายชั่วโมงหรือหลายวัน สูญเสียรายได้และความเชื่อมั่น | EDR/XDR ตรวจจับและแก้ไขเร็ว ลด Downtime |
ค่ากู้ข้อมูล | หลักแสนถึงหลักล้านบาท และไม่การันตีว่าจะกู้คืนได้ | ค่า License Antivirus หรือ NGAV เพียงไม่กี่พัน–หมื่นบาท/ปี |
ค่าปรับตามกฎหมาย | เสี่ยงผิด PDPA/GDPR จากการรั่วไหลของข้อมูล | โซลูชันที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยช่วยปฏิบัติตามกฎหมาย |
ภาพลักษณ์องค์กร | เสียความเชื่อมั่นของลูกค้าและพาร์ทเนอร์ | การป้องกันเชิงรุกช่วยรักษาความน่าเชื่อถือระยะยาว |
สรุปสั้น ๆ: การลงทุนในระบบป้องกันภัยไซเบอร์ เพียง 1–5% ของมูลค่าความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น แต่ช่วยป้องกันเหตุการณ์ที่ทำให้สูญเสียทั้งรายได้ ชื่อเสียง และลูกค้า
สรุปความคุ้มค่าและความเสี่ยง
ระดับ | ความคุ้มค่า | ความเสี่ยงถ้าไม่มี |
AV | ราคาถูก ป้องกันพื้นฐาน | เสี่ยงต่อไวรัสที่รู้จัก |
NGAV | ป้องกันภัยใหม่ ลดโอกาสโจมตี | เสี่ยงภัยสมัยใหม่, Zero-day |
EDR | ตรวจจับและสืบสวนได้ | ไม่รู้ต้นตอ, ป้องกันซ้ำไม่ได้ |
XDR | ครอบคลุมทุกระบบ | เสี่ยง Blind Spot |
MDR | มีคนเฝ้า 24/7 | ไม่มีคนตอบสนองทันที |
QuickServ พร้อมให้คำปรึกษาและติดตั้งโซลูชันความปลอดภัยไซเบอร์ครบวงจร ตั้งแต่ Antivirus พื้นฐานจนถึง MDR ขั้นสูง เพื่อปกป้ององค์กรของคุณจากภัยไซเบอร์ทุกรูปแบบ
หากองค์กรของท่านต้องการศึกษารายละเอียดการทำงานและความเหมาะสมของ EDR, XDR และ MDR เพิ่มเติม สามารถอ่านต่อได้ที่ เจาะลึก EDR / XDR / MDR: เข้าใจให้ชัด ก่อนเลือกใช้ในองค์กร
Comments
0 comments
Please sign in to leave a comment.